วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2553

รักเพราะอะไร?

.....การใช้ชีวิตคนเดียวมานาน มันทำให้ฉันเกือบลืมความรู้สึก อะไรบางอย่างไป.....





แต่..ฤดูหนาวปีนี้ กลับทำให้ฉันรู้สึกแปลก ๆ

ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ นานแค่ไหนนะ ที่ไม่เคยเป็นแบบนี้






เธอเป็นใคร? ทำไมน่ารักจัง...

หลังจากวันนั้น

เราเจอกันครั้งแล้ว ครั้งเล่า จนความรู้สึกดี ๆ พอกพูนเคลือบเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจจนมิด

เราคบกันดีไหม? เธอถามฉัน...ฉันยิ้มแทนคำตอบ

( แอบภาวนาขออย่าให้เป็นเพียงฝัน )






เราเริ่มเรียนรู้กันและกัน

เธอชอบดูบอล...ฉันชอบดูข่าว

เธอชอบฟังเพลง...ฉันชอบอ่านหนังสือ

เธอชอบกินซูชิ...ฉันชอบกินบะหมี่

เธอชอบเล่นเกม...ฉันชอบวาดรูป

เราชอบต่างกัน แต่...เราก็เข้าใจกัน






จนวันหนึ่ง...ฉันพร้อมที่จะบอกความลับกับเธอบางอย่าง

พร้อมจะฟังแล้วใช่ไหม? เธอแอบอมยิ้ม






ฉันชอบเธอนะ ... ตลอดเวลาที่คบกัน ฉันมีความสุขมาก

มากจนไม่คิดว่า " ผู้ชาย " คนไหนจะมีความสุขเท่า

ผู้ชาย!! ใช่จ้ะ...ผู้ชาย เธอฟังไม่ผิดแล้วล่ะ

ฉันเป็น...ผู้ชาย






เธอเงียบ...ฉันเงียบ

เธอเริ่มเดินหันหลัง ... ค่อย ๆ เดินจากไป จากไป จากไป

ฉันพอจะเข้าใจความรู้สึกเธอดี





ขอโทษนะ ... ถ้าสิ่งที่ฉันเป็น มันทำร้ายจิตใจเธอมากขนาดนี้

ขอโทษ ... ที่ทำให้เธอผิดหวัง เสียความรู้สึก

ขอโทษ ... ที่ฉันเป็นในสิ่งที่เธออยากให้เป็นไม่ได้

เพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะใครได้ตลอด ถ้าสิ่งนั้นมันไม่ใช่เรื่องจริง

เพียงแค่เธอเปิดใจ...เธอก็จะเข้าใจ





ยิ่งเรารู้จักใครสักคนมากขึ้นเท่าไหร่ เรายิ่งต้อง " ยอมรับในสิ่งที่เค้าเป็น " มากขึ้นเท่านั้น

ลองถามใจตัวเองดูว่า..เรารักเค้าเพราะอะไร?

.......


รักในสิ่งที่เค้าเป็น...แล้วเค้าก็จะรักในสิ่งที่เราเป็นเช่นกัน














จะเชื่อไหม..ถ้าฉันไม่ได้สัญญา


ช่วงเวลาเย็นๆ
ท่ามกลางสายลมที่พัดมาแผ่วเบาผ่านผู้คนที่แสนจะบางตาในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง
บนเก้าอี้เหล็กสีฟ้าอ่อนที่ตั้งอยู่ข้างๆสวนหย่อมเล็ก
มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งเหม่อลอยราวกับว่ากำลังใช้ความคิดกับอะไรบางอย่างอยู่
โลกนี้ก็มีคนตั้งมากมาย.....
แต่ทำไมนะตอนนี้ถึงไม่มีใครเข้าใจเธอสักคนเลยหรืออย่างไรกัน
เธอนั่งเหม่อพลางถอนหายใจพลาง
ทันใดนั้นเองมีเสียงของชายคนหนึ่งพูดขึ้น

"ขอโทษนะครับ ดูท่าทางคุณกำลังต้องการเพื่อนคุยสักคนอยู่
ขอผมนั่งคุยเป็นเพื่อนคุยได้มั้ย"
"ได้สิคะ.... ถ้าคุณยินดีที่จะฟังมัน" เธอตอบรับไมตรีอย่างไม่รอช้า
และแล้วชายลึกลับผู้นั้นก็เอ่ยถามขึ้น
"อะไรหรือครับที่ทำให้คุณต้องมาครุ่นคิดมากถึงเพียงนี้
มีอะไรทำให้คุณไม่สบายใจหรือเปล่า"
"เรื่องมันอาจจะยาวสักนิดนะคะ ถ้าคุณจะอดทนฟัง ก็ได้ค่ะ....
เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อก่อนหน้านี้ไม่นาน
ฉันมีผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันคิดว่าฉันมีความรู้สึกดีๆให้แก่เค้า
และเค้าเองก็มีความรู้สึกดีๆให้แก่ฉันเช่นกัน ที่ใครๆเรียกว่าแฟนนั่นแหละค่ะ
ช่วงเวลาที่ฉันคบอยู่กับเค้าเนี่ย มีความรู้สึกถึง 2
อย่างเข้ามาพัวพันกับเรา........."

"ให้ผมทายนะครับ 2 สิ่งนั้นก็คือ ความคาดหวัง และ การสมหวังใช่มั้ยครับ "
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
"ใช่ค่ะ..... ช่วงเวลานั้นเรามีความสุขมาก
เราต่างคนต่างมีความคาดหวังต่อกันแหละกันว่าทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นแบบโน้นแบบนี้
และเพื่อที่จะรักษาเค้าไว้ไม่ให้ห่างหายไป
ทั้งเค้าและฉันต่างก็ต้องพยายามทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกสมหวังตลอดเวลา
ทั้งเค้าและฉันเองที่ต่างคนต่างอยากให้ชีวิตคู่ของเรามีแต่ความสุข
ให้ทุกๆวันมีแต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ
และต่างคนก็ต่างอยากให้แฟนของตนน่ะอยู่ข้างๆตลอดเวลา อยากให้โลกนี้มีแค่เรา
2 คน อยากมีบ้านดีๆอยู่ มีเงินเยอะๆให้ใช้
และก็ต่างคาดหวังอะไรๆต่อกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

จนกระทั่ง...... เอ่อ...... จนกระทั่ง "
หญิงสาวเริ่มติดขัดอันเนื่องมาจากอาการสะอึกสะอื้น
และน้ำในตาที่เริ่มเอ่อล้น
"จนกระทั่งเมื่อเวลาผ่านไป เค้าเริ่มเปลี่ยนไป พอฉันอยากให้เค้ามาหา
อยากให้พาไปเที่ยว
เค้าก็เริ่มบ่นว่าฉันเอาแต่ใจบ้าง อ้างว่ามีงานต้องทำบ้าง
และมีอีกหลายๆเหตุผลที่เค้าจะพูดขึ้นมา เพื่อจะเริ่มตีห่างจากฉัน
เค้าบอกว่าเค้าเหนื่อย เค้าไม่อยากจะทนอีกแล้ว
และพอนานๆเข้าเราก็เริ่มเหินห่างกัน เริ่มคุยกันไม่รู้เรื่อง
เริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้น ต่างคนต่างถือทิฐิ ต่างจะเอาชนะ
ต่างไม่ยอมลดละความคาดหวังของตนลงเลย
และในที่สุดเราก็ต้องเลิกรากันไป............"

"ครับ ในเมื่อคบกันไปก็ไม่มีความสุข คุณตัดสินใจแบบนี้ก็ถูกต้องแล้วนี่ครับ
แล้วคุณยังจะมาเสียใจกับอะไรอีกล่ะครับ" ชายหนุ่มเอ่ยถาม
" ฉันเหงา ฉันไม่มีใคร เวลาที่ฉันเห็นคนโน้นคนนี้เดินกันมาเป้นคู่ๆ
ป้อนขนมให้กัน เดินจูงมือกัน ฉันเองก็ทนไม่ได้ ฉันอยากมีแบบนั้นอีกครั้ง
ครั้งนี้ฉันจะยอมทุกอย่าง ไม่ว่าเค้าจะต้องการอะไรฉันจะหามาให้ทุกอย่าง
ฉันจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นแบบที่เค้าต้องการ
ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนฉันก็ยอม ฉันยอมทั้งนั้น....
ขอแค่ให้เค้ากลับมาคบกับฉันอีกครั้งก็พอแล้ว....."

"เดี๋ยวก่อนครับ แล้วทำแบบนั้นคุณคิดว่าคุณจะมีความสุขมั้ย....
คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคุณกับเค้าจะไปด้วยกันได้"
"ก็มันไม่มีวิธีอื่นแล้วนี่คะที่จะทำให้ฉันไม่ต้องเหงา ไม่ต้องอ้างว้าง
ไม่ต้องไร้คู่อยู่แบบนี้ หรือคุณจะมีคำแนะนำอะไรที่ดีกว่านี้"
"ถ้าวิธีทำให้เค้ากลับมาผมคงไม่มีหรอกครับ
แต่ผมมีวิธีที่จะทำให้คุณมีความสุขได้ คุณจะยอมฟังรึเปล่า"
"ฟังสิคะ ขอแค่ให้ฉันได้มีแฟน ไม่ต้องเหงาแบบนี้ ฉันยอมทุกอย่างค่ะ....."
"คุณเก็บคำว่ายอมของคุณไปก่อนเถอะครับ มันไม่จำเป็นต้องใช้เลย
แค่คุณเชื่อมั่นต่อผม ระลึกถึงผมตลอดเวลา
ไม่ให้มีสิ่งอื่นมากระทบต่อความเชื่อมั่นในตัวผม
คุณและชีวิตคู่ของคุณก็จะมีความสุขเองนั่นแหละ........."

"นี่คุณกำลังชักชวนดิฉันให้คล้อยตามคุณงั้นเหรอ........ ก็ได้
แต่คุณต้องสัญญาก่อน "
"สัญญาอะไรครับ......"
"ถ้าฉันเชื่อมั่นในตัวคุณแล้ว
ทุกๆวันของชีวิตคู่ของฉันจะมีความสุข............"
"ผมไม่สัญญาครับ!!!!!!!!"
"ถ้าฉันเชื่อมั่นในตัวคุณแล้ว
ทั้งฉันและคนรักของฉันจะได้อยู่ข้างกันตลอดเวลา...."
"ผมไม่สัญญาครับ!!!!!!!!"
"ถ้าฉันเชื่อมั่นในคุณแล้ว ฉันจะมีบ้านดีๆให้อยู่ มีเงินเยอะๆให้ใช้......"
"ผมไม่สัญญาครับ!!!!!!!!"
"อะไรเนี่ย โน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ งั้นของ่ายๆ
ถ้าฉันเชื่อคุณแล้วแฟนของฉันจะจูบลาก่อนไปทำงาน
จะมีดอกไม้มาให้ในวันวาเลนไทน์ มีของขวัญมาให้ในวันเกิด
มีเอ่อ......"

"พอแล้วครับ!!!!!!!" ชายหนุ่มรีบเบรก "ฟังผมนะ....."
"ฟังให้ดีนะ........... ถ้าคุณเชื่อผมแล้ว
ชีวิตคู่ของคุณถึงแม้จะมีเสียงหัวเราะบ้าง มีการร้องไห้บ้าง
แต่ผมสัญญาว่าคุณไม่ร้องทุกวันแน่ๆ
ถึงแม้ว่าคุณและเค้าจะไม่สามารถอยู่ข้างๆกันตลอดเวลาได้
แต่ผมสัญญาว่าเค้าจะอยู่ข้างๆคุณทุกครั้ง ในช่วงเวลาที่คุณต้องการ
แม้ว่าคุณจะไม่ได้มีความสุขกับบ้านดีๆ
แต่ผมสัญญาว่าคุณจะมีความสุขกับการใช้ชีวิตกับเค้า
ไม่ว่าจะอยู่ที่แห่งไหน
แม้ว่าบางวันคุณจะมีกินบ้าง อดบ้าง
แต่ผมสัญญาว่าคุณไม่อดทุกวันแน่ๆ........
แม้ว่าคุณจะไม่ได้รับของขวัญในช่วงเทศกาลใดๆเลย
แต่ผมก็กล้าสัญญาว่าทุกช่วงเทศกาลใดๆก็ตาม เค้าจะนึกถึงคุณเสมอ.......
และท้ายที่สุด.......... แม้ว่าทุกๆวันชีวิตรักของคุณอาจจะมีความสุขบ้าง
มีเรื่องร้ายๆเข้ามาบ้าง แต่ผมกล้าสัญญาเลยว่า
คุณจะไม่เจอเรื่องร้ายๆทุกวันแน่นอน แค่นี้เพียงพอมั้ยครับ
ถ้าจะทำให้คุณเชื่อใจผม........."

หญิงสาวถึงกับอึ้งในคำพูดของเขา และตอบตกลงในทันใด
"ค่ะ ตกลงค่ะ ฉันจะเชื่อคุณ
ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้าความคาดหวังกลับมาทำลายชีวิตฉันอีก
ดีจังนะที่ฉันไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ไม่ต้องอดทน ไม่ต้องยอม
ไม่ต้องกลัวว่าเค้าจะจากไป ไม่ต้องพยายามรั้งเค้าไว้
แค่เค้ากับฉันเชื่อใจในอานุภาพของคุณก็พอ ขอบคุณนะคะสำหรับความช่วยเหลือ
พอจะบอกได้มั้ยคะ ว่าคุณเป็นใคร และคุณมีสิ่งใดที่ฉันต้องให้ความเชื่อมั่น"

"ความรักครับ ผมคือความรัก และสิ่งที่คุณควรจะให้ความเชื่อใจก็คือ
อานุภาพของความรัก ที่ไม่อาจทำลายได้แม้กระทั่งเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
ขอแค่คุณเชื่อมั่น เชื่อใจในอานุภาพของผมแล้วล่ะก็
ชีวิตรักของคุณก็จะมีความสุขอย่างแน่นอน และต้องไม่ลืมนะครับ
อย่าปล่อยให้ความคาดหวังมาทำลายชีวิตคู่ของคุณอีก"

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

ทำไมต้องเทอ

การขอโทษและการให้อภัย (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)


การ รู้จักขอโทษนั้นเป็นมารยาทอันดีงามสำหรับตัวผู้ทำเอง และเป็นการช่วยระงับหรือช่วยแก้โทสะของผู้ถูกกระทบกระทั่งให้เรียบร้อยด้วย ดีในทางหนึ่ง หรือจะกล่าวว่าการขอโทษคือการพยายามป้องกันมิให้มีการผูกเวรกันก็ไม่ผิด

เพราะ เมื่อผู้หนึ่งทำผิด อีกผู้หนึ่งเกิดโทสะเพราะถือความผิดนั้นเป็นความล่วงเกินกระทบกระทั่งถึงตน แม้ไม่อาจแก้โทสะนั้นได้ ความผูกโกรธหรือความผูกเวรก็ย่อมมีขึ้น ถ้าแก้โทสะนั้นได้ก็เท่ากับแก้ความผูกโกรธหรือผูกเวรได้ เป็นการสร้างอภัยทานขึ้นแทน อภัยทานก็คือการยกโทษให้ คือการไม่ถือความผิดหรือการล่วงเกินกระทบกระทั่งว่าเป็นโทษ

อันอภัยทานนี้เป็นคุณแก่ผู้ให้ ยิ่งกว่าแก่ผู้รับ
เช่นเดียวกับทานทั้งหลายเหมือนกัน
คืออภัยทานหรือการให้อภัยนี้ เมื่อเกิดขึ้นในใจผู้ใด
จะยังจิตใจของผู้นั้นให้ผ่องใสพ้นจากการกลุ้มรุมบดบังของโทสะ


โกรธ แล้วหายโกรธเอง กับโกรธแล้วหายโกรธเพราะให้อภัย ไม่เหมือนกัน โกรธแล้วหายโกรธเองเป็นเรื่องธรรมดา ทุกสิ่งเมื่อเกิดแล้วต้องดับ ไม่เป็นการบริหารจิตแต่อย่างใด แต่โกรธแล้วหายโกรธเพราะคิดให้อภัย เป็นการบริหารจิตโดยตรง จะเป็นการยกระดับของจิตให้สูงขึ้น ดีขึ้น มีค่าขึ้น

ผู้ดูแลเห็นความ สำคัญของจิต จึงควรมีสติทำความเพียรอบรมจิตให้คุ้นเคยต่อการให้อภัยไว้เสมอ เมื่อเกิดโทสะขึ้นในผู้ใดเพราะการปฏิบัติล้วงล้ำก้ำเกินเพียงใดก็ตาม พยายามมีสติพิจารณาหาทางให้อภัยทานเกิดขึ้นในใจให้ได้ ก่อนที่ความโกรธจะดับไปเสียเองก่อน

ทำได้เช่นนี้จะเป็นคุณแก่ตนเอง มากมายนัก ไม่เพียงแต่จะทำให้มีโทสะลดน้อยลงเท่านั้น และเมื่อปล่อยให้ความโกรธดับไปเอง ก็มักหาดับไปหมดสิ้นไม่ เถ้าถ่านคือความผูกโกรธมักจะยังเหลืออยู่ และอาจกระพือความโกรธขึ้นอีกในจิตใจได้ในโอกาสต่อไป

ผู้อบรมจิตให้คุ้นเคยอยู่เสมอกับการให้อภัย
แม้จะไม่ได้รับการขอขมา ก็ย่อมอภัยให้ได้


ใน ทางตรงกันข้าม ผู้ไม่เคยอบรมจิตใจให้คุ้นเคยกับการให้อภัยเลย โกรธแล้วก็ให้หายเอง แม้ได้รับการขอขมาโทษ ก็อาจจะไม่อภัยให้ได้ เป็นเรื่องของการไม่ฝึกใจให้เคยชิน

อันใจนั้นฝึกได้ ไม่ใช่ฝึกไม่ได้ ฝึกอย่างไดก็จะเป็นอย่างนั้น ฝึกให้ดีก็จะดี ฝึกให้ร้ายก็จะร้าย...


: พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร..

วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553

【 .. ทำไมคนเราต้องมีความรัก .. 】


ทำไมคนเราต้องมีความรัก
... ก็เพราะว่าเราทุกคนล้วนมีหัวใจ

ทำไมคนเราจึงต้องโหยหาความรักอยู่ตลอดเวลา
... ก็เพราะเราต้องการใครสักคนมาช่วยเราดูแลหัวใจของเรา

ทำไมคนเราถึงไม่เคยพอกับความรัก
... ก็เพราะว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อรักใครคนเดียว

ทำไมคนบางคนถึงไม่เคยพบกับความรักสักที
... ก็เพราะว่าเขาไม่เคยเปิดใจตัวเองให้ใคร

ทำไมคนบางคนไม่เคยเปิดใจตัวเองให้ใคร
... ก็เพราะว่าเขาอาจจะกำลังรอใครสักคนอยู่

ทำไมคนบางคนถึงต้องอกหักอยู่บ่อย
... ก็เพราะว่าเขาปล่อยใจตัวเองตกหลุมรักอยู่ตลอดเวลา

ไม่ต้องเสียใจที่เขาไม่รักเรา
... เพราะเราและเขาอาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อรักกัน

ทำไมคนบางคนไม่เคยสมหวังกับความรัก
... ก็เพราะว่าเขาอาจจะยังไม่เจอคู่แท้ของเขา

ทำไมคนบางคนยังไม่พบคู่แท้ของเขา
... ก็เพราะว่าเขาอาจจะไม่เคยตามหาเลยก็ได้

ทำไมเราควรจะทำตัวเราให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา
... ก็เพราะว่าเราไม่รู้ว่าจะได้เจอคนที่ถูกใจเมื่อไร

ไม่ต้องเสียใจที่เรายังไม่เจอคนที่เรารัก
... เพราะว่าเมื่อเราเจอเขาคนนั้นเมื่อไร

............................................................
เราจะรู้ว่ามันคุ้มค่ามากแค่ไหนกับเวลาที่เรารอคอย
จงทะนุถนอมหัวใจของเราไว้ให้ดี
เพราะว่าเมื่อเราเจอคนที่ใช่ จะได้มอบมันให้เขาด้วยความภูมิใจ...

..............................................................
... อย่าปล่อยให้โชคชะตาลิขิตชีวิตเราทั้งหมด
แต่จงใช้มันเป็นเครื่องนำทางในการดำเนินชีวิต
โชคชะตาสามารถทำให้เราพบคนที่ถูกใจ
แต่ตัวเราเองเท่านั้นที่สามารถทำให้เขาคนนั้นรักเรา
..................................................................

5 ความผิดพลาด ในการเลือกคู่ .. 】


เพื่อให้แน่ใจว่า คุณจะไม่ทำผิดพลาดในเรื่องนี้อีก ลองใช้ความผิดพลาดที่พบกันบ่อยเหล่านี้เป็นแนวทางในยามที่คบหาใครสักคน

1. รูปลักษณ์
กี่ ครั้งกี่หนที่คุณแทบละลายเพราะผู้ชายรูปหล่อหน้าตาดี บ่อยเลยใช่มั้ยล่ะ ทำไมคุณถึงตกหลุมพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ทำไมคุณถึงได้วางเรื่องรักของคุณไว้บนพื้นฐานของหน้าตาล่ะ เราแน่ใจว่าสิ่งที่คุณต้องการจากคู่รักนั้น มากกว่าหน้าตาดีๆ ของพวกเขาแน่ และถ้าพวกเขาไม่ได้เป็นนายแบบหรือดารา รูปร่างหน้าตาไม่ได้ช่วยให้คุณมีเงินทองหรือความสุขได้หรอกนะ


2. ความสูง
เรา เข้าใจว่าผู้หญิงชอบผู้ชายตัวสูงๆ เพราะรู้สึกว่าได้รับการปกป้องคุ้มครองจากเขา อย่างไรก็ตาม ความสูงไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ใดๆ เลยว่าเขาจะปฏิบัติต่อคุณอย่างไร คุณคาดหวังจะได้อะไรจากผู้ชายรูปร่างสูง ที่ชายรูปร่างเล็กหรือเตี้ยให้คุณไม่ได้กันล่ะ เราบอกคุณได้เลยจากประสบการณ์ว่า ความสูงของผู้ชายไม่เป็นตัวกำหนดหัวใจของเขา และหัวใจต่างหาก ที่บอกว่าผู้ชายเป็นคนดีแค่ไหน และเขาจะปฏิบัติต่อคุณเพียงใด


3. ศักยภาพ
อย่า เขาใจเราผิดไป คนที่ศักยภาพในตัวเต็มเปี่ยมถือว่าเป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่เรากำลังพูดถึงก็คือ คุณไม่ควรเลือกคนคนหนึ่งจากศักยภาพของเขาแต่เพียงอย่างเดียว ศักยภาพเป็นเพียงคุณสมบัติอย่างหนึ่งของคนเราเท่านั้น และไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเป็นคนดี คุณจำเป็นต้องแยกแยะด้วยว่าเขามีคุณสมบัติอื่นใดอีกด้วยบ้าง มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะแยกแยะว่าคนคนนั้นตรงกับความต้องการของคุณหรือ เปล่า ถ้าคุณไม่รู้ว่าอะไรที่คุณต้องการ คุณก็มีปัญหาใหญ่แล้วล่ะ


4. ความมีอารมณ์ขัน
การ มีคนซึ่งมีอารมณ์ขันและสนุกสนานอยู่ด้วยทำให้ชีวิตของคุณดูจะง่ายๆ สบายๆ ขึ้น การหัวเราะเป็นการเบี่ยงเบนตัวเองจากความวิตกกังวลและปัญหาต่าง ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อคู่รักของ คุณทำตลกมากเกินไป และไม่อาจจะจริงจังกับเรื่องต่างๆ ในชีวิตได้ มันก็กลายเป็นปัญหา ซึ่งคุณไม่ต้องการอย่างแน่นอน การเน้นที่คุณสมบัติในเรื่องนี้มากเกินไป ในเมื่อคุณต้องการมากกว่านั้น จะนำคุณไปสู่เส้นทางที่เต็มไปด้วยปัญหาและปวดเศียรเวียนเกล้า


5. ความตื่นเต้น
ไม่ ใช่เรื่องน่าประหลาดใจที่คุณจะถูกดึงดูดเข้าหาคนที่ดูน่าตื่นเต้น สนุกสนาน และมีชีวิตอยู่บนความเสี่ยงความพุ่งพล่านที่คุณรู้สึกเมื่ออยู่กับพวกเขา เป็นความรู้สึกที่แสนวิเศษ แต่คุณจะสามารถใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเช่นนั้นได้นานเท่าไหร่กัน ล่ะ การแสวงหาคนที่จะให้ความตื่นเต้นแก่คุณทุกวัน อาจนำคุณไปสู่เส้นทางชีวิตที่ไร้ความรับผิดชอบ


ลอง นึกย้อนกลับไปถึงคนในสมัยเรียนที่ใช้ชีวิตน่าตื่นเต้นดูสิ เดี๋ยวนี้พวกเขาเป็นยังไงกันบ้าง เราแน่ใจว่าสิ่งที่พวกเขาเป็นอยู่คงไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักหรอก มันเป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องรับรู้ว่า คุณสมบัติบางอย่างของผู้ชายไม่เพียงพอที่จะสร้างชีวิตรักที่มีความสุข ถ้าคุณสงสัยว่า ทำไมคุณไม่มีความสุขกับชีวิตคู่ของคุณ ลองมองดูเงื่อนไขที่คุณใช้เลือกคู่ของคุณดูสิ

เคล็ดลับ เลือกน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์


อย่าง ที่เราทราบกันดีนะคะว่าปัจจุบันนี้ น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์มีหลากหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน ดังนั้นการเลือกใช้น้ำยาล้างชนิดใดก็ควรเลือกด้วยความระมัดระวังและเลือกให้ เหมาะกับลักษณะการใช้งาน ...

>>> เลือกใช้แบบล้าง แช่ และกำจัดคราบโปรตีนในขวดเดียวน้ำ
ยา ในรูปแบบนี้ไม่ค่อยมีปัญหาเวลาเข้าตา สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดีพอสมควร ปัญหาที่เกิดมักเกิดจากการที่น้ำยาประเภทนี้ล้างทำคราบโปรตีนติดแน่นได้ไม่ ค่อยดีนัก ปัจจุบันมักมีการโฆษณาว่าน้ำยาประเภทนี้ไม่ต้องถูเลนส์ก็ล้างได้ดี ในความเป็นจริงแล้วการถูเลนส์ยังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่ เพื่อให้น้ำยาประเภทนี้ใช้งานได้ดี

ปัญหา อีกประการ คือ น้ำยานี้โดยมากจะเหลือคราบสกปรกไว้ ซึ่งนั่นอาจจะทำให้ผู้ใช้เกิดการแพ้สารกันเชื้อโรคในน้ำยานั้น น้ำยาประเภทนี้ใช้ได้ดีที่สุดกับคอนแทคประเภทใส่แล้วทิ้ง

>>> เลือกใช้แบบล้าง แช่ และกำจัดคราบโปรตีนแยกขวดกัน
พวกนี้ส่วนมากจะล้างได้ดีกว่า สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดีถึงดีมาก มักมียาเม็ดที่ให้แช่ไว้สำหรับล้างคราบโปรตีนทุกๆ เดือน ปกติแล้วน้ำยาชนิดนี้ใช้ได้ดีกับเลนส์ที่ใส่ประจำ เพราะล้างคราบโปรตีนได้ดี

ข้อเสียคือ อาจมีอาการแพ้จากสารประกอบในน้ำยาได้ไม่ค่อยสะดวก แล้วถ้าล้างน้ำยาล้างออกไม่หมดก็จะทำให้ตาเจ็บ ตาแดง และอาจต้องไปพบแพทย์อีกด้วย


>>> เลือกใช้แบบ Hydrogen Peroxide
กลุ่มน้ำยาในรูปแบบนี้มักแยกเป็น 2 ขวด ขวดแรกเป็นล้างเลนส์ก่อนฆ่าเชื้อ ขวดที่สองใช้ใส่ในขวดพิเศษพร้อมกับเลนส์ ส่วนมากอันนี้ ต้องแช่ไว้ค้างคืน น้ำยาประเภทนี้ฆ่าเชื้อได้ดีมาก ใช้ได้กับคอนแทคเลนส์เกือบทุกชนิด แต่ไม่ค่อยสะดวกเพราะใช้เวลานานในขั้นตอนต่างๆ และเมื่อแช่เลนส์แล้วเอามาใช้ทันทีไม่ได้ จำเป็นต้องแช่ให้ครบกำหนดเวลา ถ้านำเลนส์ออกมาใส่ก่อนครบกำหนดเวลาก็อาจทำให้ตาเจ็บ ตาแดง ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที


จำ ไว้ให้ขึ้นใจว่าควรให้ความสำคัญกับการเลือกน้ำยาล้างคอนเทคเลนส์ ให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานคอนเทคเลนส์ของเราด้วย เพื่อที่ดวงตาของเราจะได้สวยใสและปลอดภัยยังไงล่ะ