วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ที่ใดมีรัก..ที่นั้นมีทุกข์..จริงหรือ?


.+*+. ที่ใดมีรัก..ที่นั้นมีทุกข์..จริงหรือ? .+*+.


ที่ใดมีรัก...ที่นั้นมีทุกข์ ได้ยินประโยคนี้ทีไรทำให้รู้สึกว่า มันยอมไม่ได้จริงๆ ที่จะมาโทษความรักว่าเป็นต้นเหตุของความทุกข์

ที่ใดมีรัก...ที่นั้นมีทุกข์ ช่วยอ่านกันใหม่อีกครั้ง แล้วพิจารณาด้วยใจ ว่าจริงๆแล้วเราทุกข์เพราะอะไร .... ใบ้ให้ก็ได้จากตัวเรานี่แหละ

เคยได้ยินประโยคของเพลงนี้หรือเปล่า.......“ดั่งในใจความบอกในกวี ว่าตราบใดที่มีรักย่อมมีหวัง”

ความหวังนี่เองที่ทำให้เราทุกข์ได้มากมายขนาดนี้...งง ล่ะสิ

“ที่ใดมีรัก...ที่นั้นมีความหวัง...ที่ใดมีความหวังที่นั้นมีทุกข์” นี่คือนิยามความรักของแอ้มเอง

“ความหวัง”ทำให้คนเรารู้สึกเป็นทุกข์....หวังทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ....หวังลมๆแล้งๆ เหมือนการคอยฝนในหน้าแล้ง

อย่าบอกเชียวนะ ว่าคุณมีความรักที่ไม่ได้หวังผลตอบแทน หากคุณรักคนๆหนึ่ง คุณก็หวังที่จะให้เขารักตอบ

“สักนิด” “สักครั้ง ก็ยังดี” “ขอเพียงแค่นั้น” คุ้นๆหูคุ้นๆตาใช่ไหม เหล่านี้เป็นกำแพงที่เราสร้างขึ้น เพื่อยับยั้งความต้องการของเราเอง การยับยั้งความต้องการมันทรมานนะ คุณไม่รู้สึกเหรอ

มันเป็นความทรมานจากการห้ามความรู้สึกตัวเอง หลอกตัวเองว่าอย่ารักมากไปกว่านี้เลย ทั้งๆที่ความจริงก้อรักไปแล้วหมดหัวใจ

รักและคิดถึง เมื่อรักแล้วก้อต้องคิดถึง เวลาที่คิดถึงคุณมีความสุขหรือเปล่า ความคิดถึงกับความโหยหา ต่างกันตรงไหน? เวลาที่เราคิดถึงใคร

เราแอบคิดเสมอว่าเค้าจะคิดถึงเราอยู่บ้างไหม หรือคุณไม่เคยคิด

รู้สึกยังไงล่ะ.... ทรมานใช่ไหม ไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่รู้ ว่าหวังแล้วจะมีผลอย่างไร เราก็จะทุกข์ตั้งแต่เราเริ่มหวังแล้ว เพราะความหวังมันจะมาพร้อมกับความกังวล และความไม่มั่นใจในสิ่งนั้น

หวังมาก ทุกข์มาก หวังน้อยทุกข์น้อย

ความหวังทำให้ชีวิตมีพลังใจ...ความหวังในความรัก... ทำให้เราตั้งใจเรียนผิดปกติ(ทุกข์นะเนี่ย ปวดหัวจะแย่)

ความหวังทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่มีวันสมหวัง....ทำให้เราทรมานแทบขาดใจ

ความรักเป็นสิ่งสวยงาม....ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการที่ทำให้เรามีความทุกข์ ......

แล้วไอ้คำว่า ที่ใดมีรัก..ที่นั้นมีทุกข์นั้นจริงหรือ??? คำตอบทั้งหมดน่าจะอยู่ที่ใจคุณแล้วล่ะ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น